เมนู

ในสวรรค์ช้านานประมาณห้าสิบเจ็ดโกฏิหกหมื่นปี มาในภพนี้ พระเทวทัตกับพระบรมโพธิสัตว์
เจ้าได้เกิดปะกันอีก พระเทวทัตรุกรานรันทำประทุษร้ายพระสัพพัญญู ผู้เป็นบรมศาสดาแล้ว
กระทำสังฆเภทเป็นกรรมหนัก ต้องแผ่นดินสูบลงไปไหม้อยู่ในอวิจีมหานรกตราบเท่าที่ทุกวันนี้
ฝ่ายสมเด็จพระพิชิตมารโมลีเจ้าได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมโพธิญาณสิ้นอาสวะทั้งปวงแล้ว ก็เสด็จ
ล่วงลับเข้าสู่พระบวรมหานคเรศศิเวศร์นฤพาน เหตุฉะนั้นบพิตรพระราชสมภาร อาตมาจึง
ถวายพระพรว่า กุศลกับอกุศลนี้มีผลไม่เสมอกัน อกุศลให้ผลไปทนทุกข์ในทุคติ ส่วนกุศลนี้ให้
ผลนำสัตว์ไปสู่สุคติภพทั้ง 3 พาข้ามถึงซึ่งฝั่งแห่งพระนิพพาน ขอบพิตรจงทรงทราบพระ
ปัญญาญาณด้วยประการดังนี้
ส่วนสมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิราช ได้สดับก็ทรงประสาทโสมนัสตรัสซ้องสาธุการ
กุสลากุสลการิสส สมาสมปัญหา คำรบ 5 จบเพียงนี้

อมราเทวีปัญหา ที่ 6


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นทวีปบวรขัตติยสุขุมาลมีพระราชโองการประภาษ ตรัสถาม
พระนาคเสนต่อไปว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้าผู้เป็นปฏิสัมภิทา สมเด็จ
พระสุคตินทราธิบดินทร์มุนินทร์ผู้ประเสริฐ มีพระพุทธฎีกาตรัสพระสัทธรรมเทศนาไว้ว่า สพฺพา
อิตฺถิโย
สตรีภาพทั้งหลายในมนุษย์โลกนี้ แม้นได้ขณะก็ดี ได้กำบังก็ดี ได้ฟังลมปากก็ดี ชายใด
เชื้อเชิญเกี้ยวก็ดี สตรีทั้งหลายคงกระทำซึ่งการลามกเมถุนจนได้ ในที่ลับนั้นถึงจะไม่มีชายรูป
งาม มีแต่ชายทรามรูปไม่งาม ต่ำลงมาที่สุดคนง่อยเปลี้ยก็ดี ถ้าที่ลับแล้ว สตรีนั้นก็ย่อมหลง
ในลามกหมดทุกคน สมเด็จพระทศพลเจ้าตรัสฉะนี้แล้ว กลับมีพระพุทธฎีกาตรัสว่า ภิกฺขเว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นางอมราเทวีเป็นภรรยาของพระมโหสถบัณฑิตนั้น ปวุฏฺฐปติกา อยู่ปราศ-
จากผัว รโห นิสินฺนา เข้าไปนั่งอยู่ในห้องที่ลับแห่งนายประตู มีชายไปพูดด้วยสองต่อสองใน
ห้องรโหฐาน นางจะได้ประพฤติมิจฉาจารการลามกหามิได้ จึงวิสัชนาแก้ไขในกระแสพระพุทธ-
ฎีกาให้วิตถารว่า เมื่อพระบรมโพธิสัตว์พานางอมราเทวีไป จะลองใจนาง ว่าดีหรือว่าลามกอยู่
ในห้องกำบังนั้น ให้เกี้ยวพาพูดวาจา นาอมราเทวีนั้นก็มิได้ปลงใจด้วยบุรุษทั้งหลายที่ใช่ให้ไปลอง
เรื่องราวนี้วิตถารอยู่ในมโหสถชาดกแล้ว นี่แหละพระผู้เป็นเจ้าโยมพิเคราะห์ดูกระแสพระพุทธฎีกา
นี้ เป็นสองไม่ต้องกัน ปัญหานี้เป็นอุภโตโกฏิ จงโปรดวิสัชนาให้แจ้งก่อน